อียิปต์เป็นประเทศที่มีอากาศร้อน และแห้งแล้ง ฝนตกเพียงเล็กน้อยในฤดูหนาวและตกเฉพาะบริเวณเดลต้า (ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ ) อียิปต์ได้อาศัยความชุ่มชื้นจากแม่น้ำไนล์เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิต ถเาขาดแม่น้ำไนล์อียิปต์ก็ไม่แตกต่างกับทะเลทรายที่ร้อนระอุ เฮโรโดตัส
( Herodotus ) นักประวัติศาสตร์กรีกโบราณได้กล่าวไว้ว่า " Egypt is the Gift of the Nile " (อียิปต์เป็นของขวัญจากแม่น้ำไนล์ ) คำกล่าวนี้จึงเป็นความจริงอย่างยิ่ง กล่าวคือ ในราวเดือนกรกฎาคมของทุกๆปี น้ำในแม่น้ำไนล์จะไหลท่วมท้นฝั่งทั้งสองและจะเริ่มลดลงในเดือนตุลาคมลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อน้ำลดลงแล้วจะทิ้งโคลนตมไว้ตามบริเวณสองฝั่งลำน้ำ โคลนตมเหล่านี้เป็นปุ๋ยซึ่งเมื่อเพาะปลูกแล้วจะให้ผลดีอย่างมาก ชาวอียิปต์โบราณยังรู้จักวิธีการทำนา ทำนบกั้นน้ำ ขุดคูส่งน้ำลำเลียงเข้าไปในดินแดนซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากฝั่งเป็นการขยายพื้นที่ประกอบการกสิกรรมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ประเทศอียิปต์ในสมัยโบราณประกอบด้วยบริเวณที่สำคัญ 2 บริเวณ คือ
ภาพที่ตั้งของอียิปต์บน และอียิปต์ล่าง |
“ |
2.อียิปต์ล่างหรืออียิปต์ต่ำ ( Lower Egypt ) ได้แก่ บริเวณที่แม่น้ำไนล์แตกสาขาออกเป็นรูปพัด ไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บริเวณนี้ชาวกรีกโบราณ เรียกว่า เดลต้า ( Delta ) เป็นบริเวณปลายสุดของลำน้ำ มีความยาวประมาณ 100 ไมล์ อารยธรรมโบราณของอียิปต์ได้เจริญขึ้นบริเวณแถบเดลต้านี้
ที่มาจาก
-รองศาสตราจารย์นันทกา กปิลกาญจน์. ประัวัติศาสตร์และอารยธรรมโลก. สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ .พิมพ์ครั้งที่ 9 พ.ศ.2550.หน้า 17.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น